ต้นไม้ถือว่ามีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะประดับเพื่อความสวยงาม ให้ร่มเงา นำผลที่ได้ออกมารับประทาน บางชนิดถือเป็นต้นไม้สิริมงคลตามความเชื่อของไทย เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จึงมักจะชอบเลือกสรรต้นไม้มาประดับบ้าน โดยบางครั้งยังไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน เพราะต้นไม้บางชนิดมีรากที่ยาวและใหญ่ อาจทำให้ตัวบ้านเสียหายได้ ก่อนปลูกต้นไม้จัดสวนจึงต้องศึกษา เลือกต้นไม้ให้เหมาะกับบ้านดีกว่า เสริมไทขอแนะนำ 8 พันธุ์ไม้มงคลปลูกเพื่อให้ร่มเงาและยังทำให้บ้านร่มรื่นได้อีกด้วย
1. หูกระจง (ชื่อวิทยาศาสตร์ Terminate ivorensis A. Chev.)
หูกระจงมีลักษณะใหญ่และสูงได้ถึง 15-20 เมตร กิ่งก้านจะแตกรอบ ๆ ลำต้นขนานกับพื้นดิน แบ่งตัวเป็นชั้น ๆ ใบหนาทึบ มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจทำให้รากชอนไชจนส่งผลกระทบกับบ้าน สามารถป้องกันโดยใช้วิธีสักราก วางแนวอิฐฉาบปูนล้อมโคนต้น หรือปลูกให้ห่างจากบ้านในระยะที่เหมาะสม ในประเทศไทยหูกระจงมีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ หูกระจงธรรมดา หูกระจงหนาม และหูกระจงแคระ หูกระจงธรรมดาเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หูกระจงเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำมาก จึงควรหมั่นรดน้ำให้ชุ่มและควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
2. ประดู่ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Pterocarpus indicus Willd.)
ประดู่เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 10-25 เมตร ผิวเปลือกลำต้นมีสีดำหรือเทา ลำต้นเป็นพูไม่กลม แตกกิ่งก้านสาขากว้าง ดอกออกเป็นช่อบริเวณโคนก้านใบหรือปลายกิ่ง ช่อดอกมีขนาดใหญ่สีเหลือง มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ต้องการน้ำปานกลาง เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ชอบแสงแดดจัด สามารถปลูกได้ทั่วไป
3. มะม่วง (ชื่อวิทยาศาสตร์ Manaifera indica Linn.)
ไม้พุ่มยืนต้น สูงประมาณ 10-30 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบต้น ใบเดี่ยวสีเขียว ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผลมีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเหลืองส้ม มะม่วงเป็นผลไม้พื้นบ้านของไทย ปลูกกันมากในทุก ๆ ภาค มีหลากหลายสายพันธุ์ เจริญเติบโตในดินที่โปร่ง ร่วนซุย ต้องการน้ำมาก ควรรดน้ำทันทีหลังปลูกใหม่ และถ้าฝนไม่ตกให้รดน้ำทุกวัน และค่อย ๆ ห่างขึ้นเป็น 3-4 วันต่อครั้ง จนกว่าต้นมะม่วงจะตั้งตัวได้
4. ทองอุไร (ชื่อวิทยาศาสตร์ Tecoma stans)
ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-5 เมตร ลำต้นเล็กสีน้ำตาลนวลตลอดทั้งต้น ดอกสีเหลืองสดมีรูปลักษณ์คล้ายระฆัง ออกดอกเป็นช่อกลีบเลี้ยงรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนทุกชนิดที่มีความชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัด ปลูกง่ายในเขตร้อนทั่วไป ไม่ควรปลูกในที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง เหมาะสำหรับปลูกมุมใดมุมหนึ่งของบ้านที่แดดส่องถึง
5. อโศกอินเดีย (ชื่อวิทยาศาสตร์ Polyalthia longifolia Benth Hook.f. var. Pandurata)
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 5-25 เมตร เป็นไม้ผลัดใบทรงพุ่มรูปทรงพีระมิดแคบ ๆ กิ่งโน้มลู่ลงทั้งต้น เปลือกต้นเกลี้ยงสีเทาเข้ม หรือเทาปนน้ำตาล ใบเดียวสีเขียวมันเงางาม ขอบใบเป็นคลื่น อโศกอินเดียมีการเจริญเติบโตที่ช้า โตกับดินได้ทุกประเภท ชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน และควรให้น้ำในปริมาณปานกลาง
6. แคนา (ชื่อวิทยาศาสตร์ Dolichandrone serrulata (Wall. ex DC.) Seem.)
ไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดปานกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงได้ถึง 10-20 เมตร ลำต้นตรง มักแตกกิ่งต่ำ เปลือกของลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมสีเทา กิ่งค่อนข้างเปราะ และหักง่าย แคนามีการเจริญเติบโตง่าย เหมาะกับดินแทบทุกชนิด ชอบแสงแดด และมีการระบายน้ำได้ดี ปลูกช่วงแรกต้องหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ การปลูกในฤดูฝนจะทำให้โตเร็ว
7. ลีลาวดี (ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumeria spp.)
หรือลั่นทม ไม้ยืนต้นมีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ 0.9-1.2 เมตร จนถึงต้นที่สูงมาก และบางต้นอาจสูงถึง 12 เมตร เป็นไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้ง ดอกออกเป็นช่อบานใหญ่สวยงาม ในหนึ่งช่อจะมีดอกบานพร้อมกัน 10-30 ดอกบางต้นอาจมีมากกว่า 100 ดอก ต่อ 1 ช่อ ลีลาวดีสามารถเจริญเติบโตได้กับดินทุกประเภท เป็นพรรณไม้ที่ทนต่อแสงแดดได้ดี ลีลาวดีชอบความชื้นในอากาศสูงและไม่ชอบอยู่ในดินที่มีน้ำท่วมขังหรือมีการรดน้ำบ่อยครั้ง
8. ต้นพุดศุภโชค (ชื่อวิทยาศาสตร์ Gardenia jasminoides.)
ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย ลำต้นสูง 1-3 เมตร ดอกสีขาวมีกลิ่นหอมแรง มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน เมื่อดอกบานจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7-8 เซนติเมตร ต้นพุดศุภโชคสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ต้องการแสงแดดจัด และควรให้น้ำระดับปานกลาง 5-7 วันต่อครั้ง เป็นพรรณไม้ที่ทนต่อสภาพธรรมชาติได้ดี
Comments