ช่วงโควิดที่ผ่านมาหลายคนต้องกักตัวอยู่บ้าน บางคนจากที่เคยเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศก็ต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน ทำให้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น หลายคนก็หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด และการปลูกต้นไม้เพื่อดูดสารพิษก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แถมดาราคนดังยังหันมาปลูกต้นไม้ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมกันมากมาย ยิ่งเพิ่มความนิยมในการปลูกต้นไม้เข้าไปอีก วันนี้เสริมไทจึงมี 10 ต้นไม้ยอดนิยมปลูกในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ มาแนะนำค่ะ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสดชื่น และยังช่วยดูดสารพิษได้อีกด้วย จะมีต้นไม้แบบไหนบ้าง ไปติดตามชมได้เลยค่ะ
1. ยางอินเดีย
ไม้ประดับที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ เพราะนอกจากจะช่วยดูดสารพิษได้แล้ว ยังสวยอีก ด้วยรูปทรงของใบที่โค้งมน บวกกับสีของใบที่เข้มสวย โดดเด่นตัดกับสียอดอ่อนที่มีกาบหุ้มเป็นสีแดงอมชมพู เลี้ยงง่าย ภายในลำต้นและใบของมันมีน้ำยางสีขาวซึ่งเป็นพิษ ควรระวังไม่ให้โดนมือ
แสง : เป็นพืชที่ชอบแสงแดดส่องเข้ามารำไร หรือสามารถวางท่ามกลางแดดจัดๆ ได้ 3-6 ชม. แต่ก็ไม่ควรให้โดนแดดโดยตรงเพราะจะทำให้ใบบิดงอและไหม้ได้
น้ำ : หากดินแห้งก็สามารถรดน้ำให้ชุ่มได้ แต่ไม่จำเป็นต้องรดบ่อย หรือคำนวณไว้เลยว่ารดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ
ดิน : ควรมีความโปร่งร่วนซุย ให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก และระบายน้ำได้ดี สามารถผสมดินกับแกรบดำเล็กน้อย จะช่วยให้ภายในดินมีช่องอากาศให้รากได้หายใจได้ดียิ่งขึ้น
2. ไทรใบสัก
พืชเขตร้อน ปลูกได้ดีในพื้นที่อากาศอบอุ่นหรือร้อนชื้น ใบหยักพลิ้วมีขนาดใหญ่สวยงาม ลำต้นสูง อีกคุณสมบัติเด่นคือเรื่องการดูดสารพิษและฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่น จึงนิยมนำมาจัดวางในห้องนั่งเล่น ริมระเบียง หรือห้องทำงาน บริเวณติดหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง
แสง : ชอบแสงแดดรำไร หากโดนแดดเป็นเวลานานใบจะเป็นจุดสีน้ำตาลได้ และหากโดนแดดน้อยเกินไปจะทำให้ใบหลุดร่วง
น้ำ : ไทรใบสักชอบน้ำชุ่มแต่ไม่ชื้นแฉะ ดังนั้นจึงต้องระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป หรือมีน้ำขังในจานรองกระถางเพราะรากจะเป็นเชื้อราและเน่า อาจจะให้น้ำประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว (ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง)
ดิน : เน้นดินโปร่ง น้ำไม่ควรขังก็พอแล้ว
3. คล้า
ไม้ประดับที่มีลักษณะใบคล้ายรูปไข่มีขนาดใบที่ใหญ่ ปลายใบเว้าหรือแหลม ขนาดใบ สีสัน และลักษณะใบจะแตกต่างกันตามสายพันธุ์ บนใบมีเส้นลายพลิ้ว ไล่เฉดสีสวยงาม ออกดอกปลายยอด หรือตามซอกกาบใบ ออกดอกเป็นคู่ ลักษณะดอกเล็กรวมกันเป็นช่อ
แสง : ต้องการแสงแดดร่ม รำไร จนถึงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ : ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง
ดิน : ควรใช้ดินร่วนซุยผสมขุยมะพร้าว จะทำให้ระบายน้ำได้ดี ไม่มีความชื้นในกระถางมากเกินไป
4. ฟิโลใบมะละกอ
ไม้ประดับและเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน มีลักษณะใบที่สวยงามเป็นแฉก คล้ายกับใบของมะละกอ มีสีเขียวเข้มช่วยสร้างความร่มรื่นสดชื่น และยังมีประโยชน์เป็นต้นไม้ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์อีกด้วย
แสง : ชอบแสงแดดรำไรหรือร่ม ควรหลีกเลี่ยงแดดจัด
น้ำ : ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เปียกหรือแห้งจนเกินไปพอให้มีความชุ่มชื้น
ดิน : เหมาะกับดินร่วนที่มีการระบายน้ำดี ควรหลีกเลี่ยงสภาพดินเค็ม เนื่องจากเป็นพืชที่มีความทนทานต่อดินเค็มต่ำ
5. เดหลี
ไม้ประดับที่นิยมปลูกเพื่อประดับภายในอาคารอีกชนิดหนึ่ง เป็นไม้ที่คายความชื้นสูง ในขณะที่มีความสามารถสูงในการดูดสารพิษภายในอาคาร เดหลีเป็นไม้ประดับที่มีใบขนาดใหญ่ สีเขียวเข้มมันเป็นวาว ดอกเป็นช่อสีขาวนวลขนาดใหญ่สวยงาม
แสง : ชอบแสงแดดอ่อนรำไร
น้ำ : ควรให้น้ำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ในปริมาณที่หน้าดินชุ่มก็เพียงพอแล้ว
ดิน : ดินร่วนซุยหรือนำดินร่วนมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือวัสดุอินทรีย์อื่นๆ เช่น แกลบดำ ขุ๋ยมะพร้าว เป็นต้น
6. เขียวหมื่นปี
ไม้ประดับที่นิยมนำมาปลูกภายในบ้านเรือน ด้วยจุดเด่นที่เป็นพืชปลูกเลี้ยงง่าย ไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มาก ทนทานแม้ในที่ที่มีสภาพแห้งแล้งและความชื้นต่ำ ใบสีเขียวสดถึงเขียวเข้มมีลักษณะเรียวตรงก้านใบ กว้างตรงกลาง และเรียวลงในส่วนปลายใบ เขียวหมื่นปีนอกจากจะเป็นไม้ประดับแล้วยังเป็นสมุนไพรอีกด้วย
แสง : ชอบแสงอ่อนรำไร และมีแสงสม่ำเสมอรอบต้น หากได้รับแสงเพียงด้านใดด้านหนึ่งจะทำให้ต้นเอียงไปทางด้านที่มีแสงมากกว่า แต่ถ้าให้ถูกแสงแดดโดยตรงจะทำให้ใบไหม้ได้
น้ำ : ต้องการน้ำมาก ควรรดน้ำบ่อยๆ หรือรดอาทิตย์ละครั้ง
ดิน : ดินที่มีส่วนผสมของอินทรียวัตถุ ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก
7. มอนสเตร่า
ต้นไม้ที่มีรูปทรงสวย คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเพราะเป็นต้นไม้ที่นิยมทั้งของจริงและของปลอม ใบมีลักษณะรูปทรงขนาดใหญ่และมีรอยฉีกขาดเป็นลายสวยราวกับได้รับการฉลุอย่างประณีต มอนสเตอร่าจะเติบโตด้วยการแตกกิ่งใหม่ออกมาและขยายออกมาเป็นก้านใบใหญ่โตไปเรื่อยๆ นอกจากความสวยงามมอนสเตอร่ายังมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศในห้องได้ดีอีกด้วย
แสง : แสงพอดี ไม่ร้อนจนเกินไปเพราะจะทำให้ใบไหม้ แต่หากอับไม่ได้โดน แสงเลยก็จะทำให้ต้นไม่เจริญเติบโตได้
น้ำ : ควรรด 2-3 วันครั้ง และควรดูความชื้นในกระถาง หากด้านบนแห้งแต่ข้างในยังชื้นอาจจะไม่ต้องรดน้ำ หรือรดให้โดนเฉพาะใบก็เพียงพอ
ดิน : เหมาะกับดินที่ระบายน้ำได้ดี ชอบความชื้นวัสดุปลูกต้องเก็บความชื้นได้ เช่น กาบมะพร้าวสับเก็บความชื้นได้ดีกว่าดินผสมที่ขายทั่วไป
8. ลิ้นมังกร
พืชแข็งแรง ทนทาน สามารถเติบโตได้เกือบทุกสภาพแวดล้อม มีเหง้าทอดเลื้อยไปตามผิวดิน เห็นข้อปล้องชัดเจน ทุกส่วนของต้นอวบน้ำ เปราะหักง่าย มีใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบต้น หรือเรียงสลับระนาบเดียว มีสีสันและลวดลายแตกต่างกัน บางชนิดมีเส้นใยเหนียวที่ใช้ทำเชือก
แสง : ต้องการแสงแดดเพียงครึ่งวัน หากได้รับตลอดทั้งวันจะทำให้ใบหยาบกร้าน และแผ่นใบบางซีดเหลือง
น้ำ : รดน้ำเช้า – เย็น หากเป็นช่วงที่ฝนตกชุกอาจงดให้ เพื่อให้ใบมีสีสวยสดเงางาม
ดิน : ดินร่วนหรือดินปนทราย ที่มีการระบายน้ำดี
9. สาวน้อยประแป้ง
ไม้ประดับที่นิยมปลูกในกระถางสำหรับประดับในอาคารและนอกอาคาร เนื่องจากแผ่นใบมีขนาดใหญ่ พื้นใบมีสีเขียว และปะเป็นลายด่างด้วยสีขาวจนดูแปลกตา และสวยงาม แต่ทั้งนี้สาวน้อยประแป้ง ถือเป็นไม้ประดับที่ทุกส่วนมีสารพิษที่อาจทำให้ถึงตายได้ หากรับประทานเข้าไป
แสง : แสงแดดรำไร ไม่ควรให้ถูกแสงแดดโดยตรง
น้ำ : ต้องการน้ำปานกลาง ไม่ควรรดน้ำมากเกินไปจนแฉะ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
ดิน : ดินร่วนซุย (ส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน+ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก+เศษใบไม้ผุ+ทรายหยาบในอัตราส่วนเท่าๆ กัน)
10. เฟิร์นข้าหลวง
เป็นเฟิร์นที่ปลูกเลี้ยงง่าย มีความแข็งแรงทนทาน ชอบแสงรำไร ปลูกได้ทั้งกระถางในบ้าน หรือจะปลูกประดับในสวนตามต้นไม้ใหญ่ก็ได้ มีลักษณะสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ก้านใบมีสีน้ำตาลเข้ม เป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดสเปรย์ให้ใบอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะการฉีดละอองน้ำจะทำให้ใบของมันสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
แสง : ไม่ชอบแสงแดดจัดจนเกินไป ชอบอยู่ในที่ร่มมีแสงรำไร
น้ำ : ต้องการความชื้นสูง ควรรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
ดิน : ดินโปร่งระบายน้ำและอากาศได้ดี อาจจะผสมทรายหยาบ ปุ๋ยคอก หรือใบไม้ผุด้วยก็ได้ละนจกรรมทำคลายความเครียดมากขึ้นตามไปด้วย
และนี่ก็เป็น 10 ต้นไม้ยอดนิยมปลูกในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ ที่เสริมไทได้รวบรวมมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่อยากปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน ลองหาวันว่างไปเลือกที่ตลาดต้นไม้ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะทำให่้บ้านของเราน่าอยู่ขึ้นอีกหลายเท่าเลย หรือจะลองหาซื้อในไอจีหรือเฟสบุ๊คก็ได้ค่ะ ตอนนี้เค้ามีขายออนไลน์ หาซื้อง่าย สะดวก และยังประหยัดเวลาอีก
Comments